โบสถ์ คริสเตียนไปทำอะไร? ทำไมต้องไปทุกอาทิตย์?

หลายคนอาจจะสงสัยที่เห็นคริสเตียนไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ทั้ง ๆ ที่เป็นวันหยุด เป็นวันที่ควรจะได้พักผ่อน ทำไมถึงต้องไปโบสถ์? ไม่ไปได้ไหม? ทำไมต้องเคร่งศาสนากันขนาดนั้น !!

ก่อนอื่นให้เรามาดูกันก่อนว่าในวันอาทิตย์เมื่อเราเดินเข้าไปที่โบสถ์ เขาทำอะไรกันบ้าง

1. กล่าวต้อนรับและอธิษฐานเปิด

2. ร้องเพลงนมัสการ

3. ฟังคำเทศนา

4. ร้องเพลงตอบสนองหลังเทศนา

5. ถวายทรัพย์ (สำหรับคริสเตียนเท่านั้น คนไม่ใช่คริสเตียนไม่ต้องถวาย)

6. ประกาศข่าวคริสตจักร

7. อธิษฐานขอพระพร และร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าผู้อำนวยพร

8. จบการนมัสการวันอาทิตย์

โดยทั่วไปคริสตจักรหรือโบสถ์คริสต์จะมีการนมัสการพระเจ้าทุกเช้าวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 10:00 น. – 12:00 น. รายการก็จะเรียงลำดับตามด้านบน แต่อาจจะมีการสลับรายการหรือเพิ่มรายการบางอย่างซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโบสถ์ หลาย ๆ โบสถ์อาจจะมีการเรียนพระคัมภีร์ มีการอธิษฐานของกลุ่มย่อยก่อนเริ่มการนมัสการ หรืออาจจะมีการเลี้ยงอาหารกลางวัน มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่าง ๆ ในตอนบ่าย ทั้งนี้ก็เพื่อให้เรารู้จักกันและกันและรู้จักพระคำพระเจ้ามากขึ้น

ดังนั้นคำถามที่ว่า ทำไมคริสเตียนต้องไปโบสถ์? คำตอบแบบง่าย ๆ ก็คือ “เพื่อไปนมัสการพระเจ้า” แต่ถ้าจะตอบให้มากกว่านั้น คริสเตียนมีเหตุผลหลายอย่างที่ต้องไปโบสถ์ในทุก ๆ วันอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นการได้เรียนรู้จักพระคำพระเจ้ามากขึ้น ได้รู้จักคนที่มีความเชื่อเดียวกันเพื่อจะได้หนุนใจและช่วยเหลือกันหากใครกำลังประสบปัญหา การอยู่ร่วมกันทำให้เราออกห่างจากบาป ออกห่างจากการทำสิ่งที่ไม่ดี และที่สำคัญคือ พระเจ้าสัญญาว่าที่ใดก็ตามที่มีคนเชื่อพระเจ้ารวมตัวกัน 2 – 3 คน ขึ้นไป พระเจ้าก็จะอยู่ที่นั่นด้วย “เพราะว่ามีสองสามคนประชุมกันที่ไหนในนามของเรา เราจะอยู่ท่ามกลางพวกเขาที่นั่น” มัทธิว 18:20

คำว่า “โบสถ์” หรือ “วิหาร” ในความหมายที่แท้จริงของคริสเตียนไม่ได้หมายถึงตัวอาคารหรือสถานที่ ไม่ได้หมายถึงพิธีกรรมที่ทำ แต่หมายถึง คนที่เชื่อในพระเจ้า (1 โครินธ์ 6:19-20) ดังนั้นหากที่ใดมีการรวมตัวกันของผู้เชื่อ นั่นก็คือการไปโบสถ์แล้ว เหมือนกับคริสเตียนในยุคเริ่มต้นที่ไปรวมตัวกันตามบ้านเพื่อนมัสการพระเจ้า จึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นโบสถ์คริสต์หลาย ๆ แห่งอยู่ในตึกสำนักงาน อยู่ในหมู่บ้าน ทาวเฮาส์ หรือตึกแถวต่าง ๆ แทนที่จะเป็นโบสถ์ที่สวยงามเหมือนในต่างประเทศ เพราะสาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่สิ่งปลูกสร้าง แต่อยู่ที่การรวมตัวของคนที่เชื่อในพระเจ้าเพื่อมาสรรเสริญและนมัสการพระเจ้า มาเรียนรู้พระคัมภีร์เพื่อที่จะได้รู้จักพระเจ้ามากยิ่งขึ้น

คำถามต่อมาคือ คริสเตียนไม่ไปโบสถ์ได้ไหม? คำตอบที่ชัดเจนอยู่ในพระธรรม ฮิบรู 10:25 “อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนทำเป็นนิสัย แต่จงหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะพวกท่านก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว” และใน 1 โครินธ์ 12:27 กล่าวว่า “ส่วนท่านทั้งหลายเป็นกายของพระคริสต์ และแต่ละอวัยวะก็เป็นส่วนหนึ่งของกายนั้น” พระคัมภีร์บอกว่าเราแต่ละคนเป็นอวัยวะอยู่ในกายเดียว มีพระเยซูคริสต์ทรงเป็นศรีษะ เราจะเป็นอวัยวะในร่างกายได้ยังไงถ้าหากเราไม่รู้จักกัน !! การไปโบสถ์หรือไปร่วมนมัสการในคริสตจักรจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคริสเตียน แม้แต่พระเยซูเองก็ยังทรงไปธรรมศาลาหรือโบสถ์ในสมัยนั้นในทุกวันสะบาโต ถามว่ามีสิ่งไหนที่อาจารย์ในสมัยนั้นสอนแล้วพระเยซูไม่รู้อีกหรือ? คำตอบคือ ไม่มี พระเยซูทรงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพระคัมภีร์และเกี่ยวกับพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า แต่ที่พระเยซูให้ความสำคัญกับการไปนมัสการพระเจ้าในทุกวันสะบาโตก็เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่เรา ดังนั้นการไปโบสถ์จึงควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของผู้ที่เชื่อในพระเยซูด้วย

แล้วคนที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนจะเข้าโบถส์ได้ไหม? ได้อย่างแน่นอน เพราะโบสถ์ไม่ใช่สถานที่สำหรับผู้ที่เชื่อในพระเจ้าเท่านั้น แต่เป็นสถานที่สำหรับคนทุกคนที่สนใจอยากรู้จักพระเจ้าด้วย การไปเยี่ยมเยียนที่โบสถ์ไม่ได้หมายความว่าไปแล้วจะต้องเป็นคริสเตียน จะต้องเข้าร่วมศาสนา เพราะเรื่องของความเชื่อไม่มีใครสามารถบังคับได้ เราสามารถไปโบสถ์บ่อย ๆ โดยไม่เป็นคริสต์ก็ได้ ทุก ๆ คริสตจักรยินดีต้อนรับคนทุกคนอยู่แล้ว หรือเราอาจจะไปร่วมโบสถ์หรือคริสตจักรที่มีการนมัสการออนไลน์ก่อน จนเมื่อเราสนใจมากขึ้น อยากไปร่วมนมัสการพระเจ้าที่โบสถ์ เราก็สามารถหาโบสถ์ที่อยู่ใกล้บ้านไปร่วมนมัสการในวันอาทิตย์ได้เลย

แล้วถ้าอยากเป็นคริสเตียนต้องทำยังไง? การเป็นคริสเตียน ก็คือ

1. การที่เราเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าที่ลงมาเกิดในโลกนี้

2. เชื่อว่าพระเยซูทรงยอมตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปเรา เพื่อเราทุกคนที่เชื่อในพระเจ้าจะได้รับการยกโทษจากความผิดที่ทำ ได้กลับคืนดีกับพระเจ้า

3. เชื่อว่าพระเยซูทรงคืนพระชนม์อีกครั้งในวันที่สาม และตอนนี้พระองค์ทรงอยู่บนสวรรค์เพื่อจัดเตรียมบ้านสำหรับคนที่เชื่อในพระองค์

ถ้าหากเรา “เชื่อ” อย่างนี้แล้ว เราก็ได้ชื่อว่า “เป็นคริสเตียน” ขั้นต่อไปก็คือให้เราหาโบสถ์สักแห่งเพื่อที่จะได้เรียนรู้จักเรื่องราวของพระเจ้ามากขึ้น การไป “โบสถ์” เป็นประจำทำให้เราได้รู้จักกันและกัน ได้พูดคุย แบ่งปันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คริสเตียนไปเจอกันทุกวันอาทิตย์ก็เพื่อจะ “สำแดงความรัก” และ “รับความรัก” จากผู้อื่นและจากพระเจ้า เพื่อทุกคนจะได้มีชีวิตที่เหมือนกับพระเยซูมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะเป็นคนตามอย่างที่พระเจ้าต้องการ และนี่ก็คือเหตุผลการไปโบสถ์ในทุกวันอาทิตย์ของคริสเตียนนั่นเอง

“ถ้าอวัยวะหนึ่งทุกข์ อวัยวะทั้งหมดก็ร่วมทุกข์ด้วย ถ้าอวัยวะหนึ่งได้รับเกียรติ อวัยวะทั้งหมดก็ร่วมชื่นชมยินดีด้วย ส่วนท่านทั้งหลายเป็นกายของพระคริสต์ และแต่ละอวัยวะก็เป็นส่วนหนึ่งของกายนั้น” 1 โครินธ์ 12:26 -27

ถ้าหากสนใจอยากรู้เรื่องราวของการเป็นคริสเตียน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ เริ่มต้นการเป็นคริสเตียน หรือถ้าหากมีคำถามก็สามารถเมลมาสอบถามได้ที่ christiansiam@gmail.com