พระเจ้ามีจริงหรือ โลกที่เราอยู่เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญหรือมีผู้สร้าง
ความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด
1 โครินธ์ 13:13
Facebook Page   

> บทความคริสเตียน > พระเยซูคือใคร?

พระเยซูคือใคร?

เรียบเรียงโดย พายุแห่งความเปรมปรีดิ์

หลาย ๆ คนรู้ว่าพระเยซูเป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ รู้ว่าพระเยซูเกิดในวันคริสมาส รู้ว่าพระองค์ทรงถูกตรึงตายบนไม้กางเขน แล้วก็เป็นขึ้นมาอีกในวันที่ 3 นี่คือเรื่องราวที่เราส่วนใหญ่เคยเรียนมาจากโรงเรียน หรืออาจจะเป็นเรื่องราวที่เคยได้ยินได้ฟังจากคนที่เป็นคริสเตียน แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่า นี่คือเรื่องจริงหรือเป็นนิยายที่คนแต่งขึ้น? เป็นไปได้หรือที่จะมีคนตายแล้วฟื้น? ศาสนามีเพื่อสอนให้คนเป็นคนดีเท่านั้นไม่ใช่หรือ? เป็นไปได้หรือที่เรื่องราวความเชื่อของคริสเตียนจะถูกต้อง 100% ? คำถามต่าง ๆ เหล่านี้จะหมดไปถ้าหากเรารู้ว่า “พระเยซูคือใคร”

พระเยซูคือใคร?

1. พระเยซูเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อโลกใบนี้

พระเยซูเกิดในประเทศอิสราเอลเมื่อ 2,000 ปี ก่อน โดยเกิดในครอบครัวของช่างไม้ พออายุประมาณ 30 ปี ก็เริ่มประกาศเรื่องราวของพระเจ้า และถูกตรึงตายบนกางเขนเมื่ออายุประมาณ 33 ปี หลังจากนั้นในวันที่ 3 พระองค์ก็เป็นขึ้นมาจากความตาย และตอนนี้อยู่บนสวรรค์เพื่อจัดเตรียมบ้านสำหรับผู้ที่เชื่อในพระองค์

ปัจจุบันโลกเรามีประชากรประมาณ 8 พันล้านคน จากเว็บ World Population Review บอกว่าในปี 2023 มีคนที่เป็นคริสเตียนถึง 2.38 พันล้านคน หรือประมาณ 30% ของคนทั้งโลก จะเห็นได้ว่าพระเยซูคริสต์ใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี เท่านั้น ในการสอนเรื่องราวของพระเจ้ากับสาวก 12 คน ซึ่งในสมัยนั้นคนเหล่านี้นับได้ว่าเป็นชนชั้นล่าง เป็นชาวประมง เป็นคนเก็บภาษี แต่ด้วยจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ นี้ พระองค์สามารถทำให้คนทั้งโลกได้รู้จักพระเจ้า คำถามคือ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

คำตอบก็คือ เพราะทุกสิ่งที่พระเยซูตรัสไว้นั้นเป็นความจริง โดยเฉพาะการพูดถึงความจำเป็นที่พระองค์ต้องลงมาเกิดบนโลกใบนี้ เพราะไม่อยากเห็นใครสักคนต้องตกนรก พระองค์จึงทรงยอมตายเพื่อไถ่บาปให้กับคนเป็นจำนวนมาก และยังบอกอีกว่าพระองค์จะเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่ 3 และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ คนในยุคนั้นเห็นพระเยซูถูกตรึงบนกางเขน คนในยุคนั้นเห็นพระองค์ตายและถูกฝังในอุโมงค์ และคนในยุคนั้นก็เห็นพระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย ได้พูดคุยกับพระองค์เป็นเวลา 40 วัน และได้เห็นพระองค์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์กับตา นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สาวกของพระเยซูหลาย ๆ คนยอมตายเพราะเป็นพยานเรื่องราวของพระเยซู นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คริสเตียนหลายคนยอมประสบกับความทุกข์ยากลำบาก การถูกข่มเหง เพราะเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า ถ้าเรื่องพระเยซูไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าพระองค์ไม่ได้เป็นขึ้นมาจากความตายจริง ๆ คนเหล่านี้จะยอมตายเพื่อความเชื่อของตนทำไม !!!

พระเยซูคือใคร?

2. พระเยซูทรงป็นพระเจ้าและเป็นมนุษย์ด้วย

เมื่อพูดถึง “พระเจ้า” เรารู้ว่าพระองค์ทรงยิ่งใหญ่ ทรงบริสุทธิ์ ทรงยุติธรรม สามารถทำอะไรก็ได้เพราะมีฤทธิอำนาจไม่จำกัด และเมื่อมองมาที่ “มนุษย์” เรารู้ว่าคนเราแตกต่างจากพระเจ้าเป็นอย่างมาก มนุษย์มีความสามารถจำกัด มีความบาป มีความคดโกงในจิตใจ เป็นไปได้หรือที่จะมีพระเจ้ามาอยู่บนโลกนี้ในสภาพมนุษย์? และเมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้วจะยังคงสภาพพระเจ้าได้หรือ?

พระเยซูคริสต์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพระองค์ไม่ได้มีแค่คำสอนเพื่อให้คนเป็นคนดี แต่พระองค์ “ทรงเป็นทาง” ที่จะนำคนให้ไปถึงพระเจ้า นำคนให้ไปอยู่ในสวรรค์เป็นนิจนิรันดร์ได้ เพราะพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า 100% และเป็นมนุษย์ 100%

ในพระคัมภีร์ไบเบิล เราเห็นการบันทึกชีวประวัติของพระเยซูอย่างตรงไปตรงมา เราเห็นพระองค์ทรงหิว ทรงกระหาย ทรงโกรธ ทรงรัก เราเห็นพระองค์เสียใจร้องไห้ เห็นพระองค์ทรงเมตตาสงสารคน เห็นพระองค์ทรงยุติธรรม ทรงกล้าพูดอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่เกรงกลัวอำนาจใด ๆ เราเห็นการดำเนินชีวิตของพระเยซูเหมือนกับคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างออกไปจากคนปกติ ก็คือ “พระเยซูไม่เคยทำบาปเลย” นี่เป็นการสำแดงพระลักษณะของพระเจ้าให้ทุกคนได้เห็น เพราะพระเจ้าทรงบริสุทธิ์ ความมืดไม่สามารถอยู่ร่วมกับความสว่างได้ฉันใด ความบาปก็ไม่สามารถอยู่ร่วมกับพระเจ้าได้ฉันนั้น

นอกจากนี้เรายังเห็นพระเยซูทรงทำการอัศจรรย์ ทรงรักษาคนตาบอดแต่กำเนิดให้มองเห็นได้ รักษาคนง่อยให้เดินได้ รักษาคนโรคเรื้อนให้สะอาด ทรงทำให้คนที่ตายแล้วเป็นขึ้นมาอีก นี่คือ พระลักษณะของพระเจ้าที่มีฤทธิ์อำนาจไม่จำกัด ไม่มีสิ่งใดยากหรือเกินกำลังพระองค์ พระเยซูได้พิสูจน์ให้เราทุกคนได้เห็นว่าพระองค์ไม่ใช่แค่ศาสดาของศานาคริสต์ แต่พระองค์เป็นพระเจ้าที่ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อนำคนบาปทั้งหลายให้กลับคืนดีกับพระเจ้า เพื่อให้ผู้ที่เชื่อในพระองค์ทุกคนสามารถเรียกพระเจ้าว่า “พระบิดา” ได้ และนี่คือการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเยซูได้ทำเพื่อเราทั้งหลาย เพราะพระองค์ไม่ได้รักษาแค่ความเจ็บป่วยทางร่างกายเท่านั้น แต่ทรงรักษาจิตใจและจิตวิญญาณของเราทุกคน เพื่อให้เราทุกคนมีชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์ ได้อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ในบ้านของพระเจ้า

พระเยซูคือใคร?

3. พระเยซูคือผู้ที่ช่วยให้มนุษย์ได้ขึ้นสวรรค์

แต่ละศาสนานั้นมีทางเดินไปสู่สวรรค์ที่แตกต่างกัน ซึ่งศาสนาคริสต์ได้บอกอย่างชัดเจนว่าเราไม่สามารถไปสวรรค์ได้ด้วยการทำดี ด้วยการทำบุญ เพราะไม่ว่าเราจะทำดีอย่างไรก็ไม่สามารถไปถึงมาตรฐานที่พระเจ้ากำหนดไว้ได้ เรายังคงเป็นคนบาป และการทำดีไม่สามารถลบล้างบาปได้ เมื่อทำผิดก็ต้อง “ถูกลงโทษ”

โทษของความบาป ก็คือ “ความตาย” นั่นคือ การตกนรก การถูกแยกออกห่างจากพระเจ้า พระเจ้าทรงรักมนุษย์ พระองค์ไม่อยากเห็นใครสักคนต้องตาย แต่พระเจ้าก็ทรงยุติธรรม เมื่อทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ ไม่สามารถละเว้นให้ได้

ทางออกเดียวที่พระเจ้าจะทำได้ก็คือ “การส่งพระเยซูคริสต์” พระบุตรองค์เดียวของพระองค์ลงมาเกิดบนโลกนี้ เพราะมนุษย์คนแรกคือ อาดัม “ไม่เชื่อฟัง” เขาได้กินผลไม้ที่พระเจ้าทรงห้ามไว้ ทำให้คนทั้งโลกตกอยู่ในความบาป นำไปสู่ความตายเป็นนิจนิรันดร์ แต่เพราะ “การเชื่อฟัง” ของพระเยซูที่ทรงเป็นมนุษย์ที่ไม่มีบาปเพียงคนเดียว ก็สามารถนำคนทั้งหลายที่เขื่อในพระองค์ไปสู่ชีวิต ทำให้สามารถไปอยู่ในสวรรค์ร่วมกับพระเจ้าเป็นนิจนิรันดร์ได้

หลายคนอาจสงสัยว่า เพียงแค่เชื่อในพระเยซูเท่านั้นก็ไปสวรรค์ได้จริง ๆ หรือ? คำตอบคือ “ใช่” แค่เราเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้าที่มาตายบนกางเขนเพื่อบาปของเราเท่านั้น เหมือนกับการที่เราเป็นหนี้ เราไม่มีเงินที่จะใช้หนี้ก้อนนี้ได้ แล้วมีคนเอาเงินมาจ่ายหนี้แทนเรา เราไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ยอมรับน้ำใจของคน ๆ นั้นก็พอ หนี้ที่เรามีก็หมดไป เช่นเดียวกัน เราเป็นหนี้บาป การชดใช้ทางเดียวก็คือ การถูกลงโทษในบึงไฟนรก แต่พระเยซูคริสต์ได้ยอมรับโทษแทนเราที่บนกาเขน ได้ชดใช้หนี้ก้อนนี้ของเราแล้ว เราแค่ยอมรับน้ำใจนี้จากพระองค์เท่านั้น คำถามคือ เราพร้อมที่จะเชื่อพระเยซูหรือไม่? เราพร้อมที่จะให้พระเยซูเป็นพระเจ้าของเรา เป็นคนนำชีวิตของเราไหม? ถ้าเรายอม พระเยซูสัญญาว่าจะประทานชีวิตนิรันดร์ให้กับเรา และตอนนี้พระองค์กำลังจัดเตรียมบ้านบนสวรรค์ให้เราทุกคน เมื่อวันเวลานั้นมาถึง เราก็จะได้อยู่กับพระเจ้า ได้อยู่กับพระเยซูในสวรรค์เป็นนิจนิรันดร์

คำถามต่อมาก็คือ ทำไมถึงคิดว่าความเชื่อของคริสเตียนถูกต้อง? คำตอบก็คือ สิ่งที่พระเยซูทรงกระทำในโลกนี้สามารถพิสูนจ์ได้ว่าเป็นเรื่องจริง มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าพระเยซูทรงมีตัวตนจริง ๆ สิ่งที่บันทึกในพระคัมภีร์ก็ได้เขียนหลังจากพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ไม่นาน คนในช่วงเวลานั้นสามารถยืนยันได้ว่าสิ่งที่พระคัมภีร์เขียนไว้นั้นเป็นเรื่องจริง และไม่มีอะไรที่จะพิสูจน์ได้ดีกว่าการที่สาวกของพระเยซูและผู้เชื่อที่มีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกับพระเยซูยอมถูกฆ่าตายเพื่อยอมรับว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า ไม่มีใครยอมตายเพื่อเรื่องโกหกอย่างแน่นอน

ปัจจุบันพระเยซูยังคงทำงานของพระองค์อยู่ เพราะพระเยซูของคริสเตียนไม่ใช่พระเจ้าที่ตายไปแล้ว “พระองค์ยังคงมีชีวิตอยู่” มีผู้เชื่อหลายคนมีประสบการณ์ที่ได้รับการช่วยเหลือจากพระเยซู มีประสบการณ์ในการพูดคุยกับพระองค์ อธิษฐานกับพระองค์ ทูลขอในสิ่งต่าง ๆ และพระเจ้าทรงตอบ หลาย ๆ คนเมื่อมาเชื่อพระเยซูแล้วมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ละทิ้งตัวเก่า ละทิ้งความบาปต่าง ๆ ที่เคยทำ การที่ชีวิตของผู้ที่เชื่อในพระเยซูได้เปลี่ยนแปลงนั้นเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเรื่องพระเจ้า เรื่องพระเยซู และเรื่องความเชื่อของคริสเตียน “เป็นเรื่องจริง” คำถามก็คือ วันนี้เราพร้อมที่จะยอมรับความจริงนี้หรือไม่? เราพร้อมที่จะรับของขวัญแห่งการไถ่บาปจากพระเยซูหรือไม่? ถ้าเราพร้อม เราก็มั่นใจได้ว่าเมื่อจากโลกนี้ไป เราจะได้อยู่บนสวรรค์กับพระองค์อย่างแน่นอน

“พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครมาถึงพระบิดาได้นอกจากจะมาทางเรา” ยอห์น 14:6

 

แนะนำบทความที่เกี่ยวข้อง

1. พระเยซูมีตัวตนจริงหรือ

2. รู้จักพระเยซู

3. เป็นคริสเตียนได้ยังไง


ถ้าหากสนใจอยากรู้เรื่องราวของการเป็นคริสเตียน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ เริ่มต้นการเป็นคริสเตียน หรือถ้าหากมีคำถามก็สามารถเมลมาสอบถามได้ที่ christiansiam@gmail.com

ค้นหาความจริง

เริ่มต้นการเป็นคริสเตียน

เกี่ยวกับเรา

เว็บสยามคริสเตียน (Siam Christian) เป็นเว็บส่วนบุคคลที่ไม่ขึ้นกับองค์กรหรือหน่วยงานใด ๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ที่สนใจเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า พระเยซู คริสเตียน หรือคริสตจักรต่าง ๆ ในประเทศไทย หากท่านมีคำถามหรือมีข้อเสนอแนะอะไรก็สามารถอีเมลมาพูดคุยกับเราได้ที่ christiansiam@gmail.com