คำเทศนา - ไมล์ที่ 2

บทนำ: ทำไมค่านิยมคริสเตียนจึงสวนทางค่านิยมโลก?

หลายครั้งเมื่อคริสเตียนเริ่มติดตามพระเจ้า จะพบว่าค่านิยมของพระองค์มักสวนทางค่านิยมสังคม โลกอาจเห็นว่าบางสิ่ง “ไม่สำคัญ” แต่พระเจ้ากลับให้คุณค่า ในขณะที่บางอย่างที่โลกยกย่อง พระองค์กลับไม่เห็นว่ามีราคา นี่ทำให้จิตใจของผู้เชื่อหลายคนเกิดความขัดแย้งต่อต้านภายใน

ภาพสะท้อนแรกของ “ค่านิยมคริสเตียน” คือเรื่องของชัมมา หนึ่งในวีรบุรุษของกษัตริย์ดาวิด ผู้ “ยืนหยัด” ปกป้องทุ่งถั่วแดงที่ดูเหมือนเล็กน้อย แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้าฝากไว้ แม้ทุกคนละทิ้ง แม้ผู้ร่วมอุดมการณ์เดินหนี แต่เขายืนหยัดคนเดียว หัวใจแบบนี้คือรากฐานของค่านิยมคริสเตียน: รักษาสิ่งที่พระเจ้าฝาก แม้ไม่มีใครเห็นด้วยก็ตาม

ค่านิยมไมล์ที่สองคืออะไร? — มัทธิว 5:41

“ถ้าผู้ใดจะเกณฑ์ท่านให้เดินไป 1 ไมล์ ให้เลยไปกับเขาถึง 2 ไมล์” นี่เป็นคำสอนตรงไปตรงมาที่พระเยซูตรัส แต่ซ่อนความหมายลึกยิ่งกว่านั้น

บริบทในสมัยโรมัน:

• คนยิวอยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน
• ทหารโรมันมีกฎหมายให้บังคับคนยิวแบกสัมภาระให้ 1 ไมล์
• การฝืนหมายถึงติดคุก
• เป็นการกดขี่ ข่มเหง ลดศักดิ์ศรีคนยิวอย่างชัดเจน

แต่พระเยซูกลับสอนว่า ถ้าถูกบังคับ 1 ไมล์ ให้เดินเพิ่มอีก 1 ไมล์ด้วยใจสมัคร นี่ไม่ใช่การยอมแพ้ ไม่ใช่การอ่อนข้อให้ความอยุติธรรม แต่คือการ “ยืนหยัดบนหลักการของพระเจ้า” ไม่ใช่ยืนหยัดบนความรู้สึกส่วนตัวเหมือนที่หลายคนทำ

ทำไมค่านิยมไมล์ที่สองจึงเป็นหัวใจของค่านิยมคริสเตียน

พระเยซูไม่ได้สอนให้ยอมแพ้ความชั่ว แต่สอนให้ “ชนะความชั่วด้วยความดี” ก่อนข้อ 41 เพียงสามข้อ พระองค์ตรัสว่า:

• ใครตบแก้มขวา ให้หันแก้มซ้าย
• ใครอยากได้เสื้อ ให้เสื้อคลุมด้วย
• อย่าตอบแทนการชั่วด้วยการชั่ว

นี่คือหลักการเดียวกับ “ไมล์ที่สอง” ค่านิยมคริสเตียนจึงประกอบด้วย:

• ตอบสนองด้วยความรัก ไม่ใช่ด้วยความรู้สึก
• ทำเพื่อพระเจ้า ไม่ใช่เพื่อคน
• ทำมากกว่าที่ถูกบังคับเพราะเห็นคุณค่าต่อพระเจ้า
• ไม่ใช้ความเจ็บปวด ความอคติ หรือความคับแค้นเป็นตัวตั้ง
• ใช้โอกาสจากความอยุติธรรมเพื่อสำแดงความรักและการกระทำดี

ทำไมผู้คนจึงต่อต้านคำสอนนี้?

มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนต่อต้านคำสอนไมล์ที่สอง แม้ในเวลาพระเยซู เช่น:

• ความรู้พระคัมภีร์ไม่ครบ บางคนตีความแต่ “อักษร” ไม่เข้าใจ “น้ำพระทัย” ของพระเจ้า
• อคติส่วนตัวต่อคนโรมัน ประสบการณ์ไม่ดีทำให้หัวใจต่อต้านด้วยความแค้น
• อคติส่วนตัวต่อพระเยซู บางคนเห็นว่าเป็นการ “เข้าข้างศัตรู” จึงไม่ยอมรับ
• มองแต่สิ่งที่ตนเสีย ไม่มองสิ่งที่พระเจ้าได้ นี่เป็นรากเหตุของการต่อต้านค่านิยมคริสเตียนทั้งหมด

ถ้าตั้งสมการในใจแบบนี้:

• “โรมันได้อะไร?”
• “ฉันจะเสียอะไร?”

ผลลัพธ์คือต่อต้านเสมอ แต่ถ้าตั้งสมการใหม่:

• “พระเจ้าจะได้อะไร?”
• “คนรอบข้างได้อะไร?”
• “คริสตจักรได้อะไร?”

จิตใจก็เปลี่ยนเป็นการตอบสนองด้วยมุมมองใหม่

ค่านิยมไมล์ที่สองคือค่านิยมของการกระทำ มากกว่าความรู้สึก

พระเยซูไม่ได้เรียกร้องให้คนยิว “รักทหารโรมันด้วยความรู้สึก” แต่เรียกร้องให้ “รักผ่านการกระทำ” เพราะ:

• อารมณ์ไม่มั่นคง
• ความรู้สึกไม่เที่ยง
• แผลในใจทำให้รักด้วยใจได้ยาก

แต่การกระทำแห่งความรักทำได้ทุกวัน ไม่ว่ารู้สึกอย่างไร ไมล์แรก = บังคับ ไมล์ที่สอง = ความรัก ไมล์ที่สองทำให้:

• ศัตรูกลายเป็นเพื่อน
• ความสัมพันธ์เปลี่ยน
• ความคิดของอีกฝ่ายอ่อนลง
• ผู้แบกเองมีเกียรติในสายตาพระเจ้า

ค่านิยมคริสเตียน: การยืนหยัดต่อสู้กับ “ใจตัวเอง” ก่อนศัตรู

เหมือนเรื่องของชัมมา การยืนหยัดไม่ใช่ยืนหยัดต่อสู้ศัตรูก่อน แต่ต้องยืนหยัดต่อสู้ “จิตใจอ่อนแรง” ของตัวเองก่อน หลายครั้งที่เราหมดแรงกาย เพราะ “ใจ” หมดแรงก่อน

ไมล์ที่สองคือการกลับมาจัดระเบียบใจ:

• เอาชนะใจที่อยากตอบโต้
• เอาชนะใจที่อยากแก้แค้น
• เอาชนะใจที่อยากยอมแพ้
• เอาชนะใจที่อยากโต้กลับแบบธรรมชาติคน

นี่คือการมีวินัยฝ่ายจิตวิญญาณ (discipline) ที่แท้จริง

ไมล์ที่สอง: เปลี่ยนสนามรบจาก “ศัตรู” เป็น “โอกาส”

คำสอนนี้พลิกมุมมองทันทีว่า:

• ยังโกรธ → กลายเป็นโอกาสสำแดงความรัก
• อยากตอบโต้ → กลายเป็นโอกาสถวายเกียรติแด่พระเจ้า
• ถูกบังคับ → กลายเป็นโอกาสทำดี

นี่คือค่านิยมคริสเตียนที่ลึกที่สุด: ทุกเหตุการณ์เป็นช่องทางทำดีและถวายเกียรติแด่พระเจ้า

ทำไมไมล์ที่สองจึงมีพลังมากกว่าไมล์แรก

ไมล์แรก = บังคับ                             ไมล์ที่สอง = สมัครใจ
ไมล์แรก = แสดงว่าเราต่ำกว่า          ไมล์ที่สอง = แสดงว่าเราเท่ากัน
ไมล์แรก = สถานะเชลย                    ไมล์ที่สอง = สถานะเพื่อน
ไมล์แรก = ความจำยอม                   ไมล์ที่สอง = ความรัก
ไมล์แรกเปลี่ยนใครไม่ได้                  ไมล์ที่สองเปลี่ยนใจคนได้

พระคัมภีร์ยืนยันหลักไมล์ที่สอง

โรม 12:19–21 “อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี…” หลักการเดียวกัน:

• ไม่แก้แค้น
• ไม่ตอบแทนการร้ายด้วยการร้าย
• ทำดีต่อผู้ทำร้าย
• มองโอกาสมากกว่าการตอบโต้

นี่คือภาพสมบูรณ์ของค่านิยมคริสเตียน

สรุป: ค่านิยมไมล์ที่สอง = ค่านิยมคริสเตียนที่เปลี่ยนชีวิต

ไมล์ที่สองไม่ใช่การทำมากขึ้น เพราะถูกกดดัน แต่เป็นการทำมากขึ้นเพราะรักพระเจ้า ไมล์ที่สอง:

• เปลี่ยนเรา
• เปลี่ยนความสัมพันธ์
• เปลี่ยนมุมมอง
• เปลี่ยนใจศัตรู
• เปลี่ยนสังคมได้

และที่สำคัญที่สุดคือ… ถวายเกียรติแด่พระเจ้า

Call to Action

หากบทความนี้สัมผัสใจคุณ ขอเชิญให้ทบทวนว่า “วันนี้เราจะเดินไมล์ที่สองให้ใครได้บ้าง?” และให้ทุกการตัดสินใจของเราเริ่มต้นจากคำถามว่า “พระเจ้าจะได้อะไรจากสิ่งที่ฉันทำ?”

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1) ไมล์ที่สองหมายถึงอะไรในบริบทคริสเตียน? หมายถึงการทำมากกว่าที่ถูกบังคับ ทำด้วยใจรักและสมัครใจ เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า

2) ทำไมค่านิยมไมล์ที่สองจึงสวนทางค่านิยมโลก? เพราะโลกตั้งอยู่บนผลประโยชน์ส่วนตัว แต่พระเจ้าตั้งอยู่บนความรักและการเสียสละ

3) ถ้ารู้สึกว่า “ใจไม่พร้อม” จะทำไมล์ที่สองได้อย่างไร? พระคัมภีร์ชี้ว่าต้องเอาชนะใจตนเองก่อน เหมือนชัมมาที่ต้องยืนหยัดภายในก่อนภายนอก

4) ไมล์ที่สองหมายความว่าต้องยอมทุกอย่างหรือไม่? ไม่ใช่การยอมความอยุติธรรม แต่เป็นการตอบสนองด้วยความรัก แทนการตอบโต้ด้วยความชั่ว

5) ไมล์ที่สองช่วยเปลี่ยนใจผู้อื่นได้จริงหรือไม่? ได้ เพราะไมล์ที่สองเป็นการกระทำที่ทำให้ศัตรูเห็นคุณค่าและความจริงใจในความรักของพระเจ้า