คำเทศนา - เป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า Part 3
คำเทศนาประจำวันที่ 16 มีนาคม 2568โดย ดร. จิโรจ บงกชมาศ
มาระโก 9:33-37
สรุปคำเทศนา - เป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า Part 3
บทนำ: ความหมายของความสำเร็จที่แท้จริง
หลายคนคิดว่าความสำเร็จในชีวิตคือการได้เป็นผู้จัดการ CEO หรือเจ้าของธุรกิจที่ร่ำรวย ซึ่งจะส่งผลให้ครอบครัวมีความสุข ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน และได้รับการยอมรับจากสังคม แต่พระเยซูสอนเราถึงมิติใหม่ของความสำเร็จที่ลึกซึ้งกว่า คือ "การเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า" การประสบความสำเร็จในการเดินกับพระเจ้าจะส่งผลกระทบในทุกด้านของชีวิตมากกว่าความสำเร็จในโลกนี้ เพราะมันเป็นรากฐานที่แท้จริงของชีวิตที่มีความหมาย บทความนี้จะพาคุณไปค้นพบหลักการสำคัญ 3 ด้าน ที่พระเยซูสอนเหล่าสาวกเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่แท้จริงในทางของพระเจ้า
พื้นฐานจากพระคัมภีร์: บทเรียนจากมาระโก 9:33-37
เหตุการณ์ที่เปลี่ยนมุมมอง เมื่อพระเยซูเสด็จไปยังเมืองคาเปอร์นาอูม พระองค์ทรงสังเกตเห็นว่าสาวกโต้เถียงกันเรื่องใครจะเป็นใหญ่กว่ากัน เมื่อพระองค์ทรงถามถึงเรื่องนี้ สาวกต่างนิ่งอยู่ด้วยความอับอาย พระเยซูจึงประทับนั่งและเรียกสาวกสิบสองคนมาตรัสว่า "ถ้าผู้ใดใคร่จะเป็นคนต้น ก็ให้เขาเป็นคนสุดท้าย และเป็นผู้รับใช้คนทั้งปวง" จากนั้นพระองค์ทรงอุ้มเด็กเล็กๆ คนหนึ่งไว้และสอนเกี่ยวกับการรับใช้ด้วยใจถ่อมและรักแท้
หลักการสำคัญที่พระเยซูสอน
จากเหตุการณ์นี้ เราเห็นว่าการเป็นผู้นำในแบบของพระเจ้านั้นแตกต่างจากมาตรฐานโลกอย่างสิ้นเชิง พระเยซูสอนหลักการที่จะทำให้เราเป็นใหญ่ในทางของพระองค์ด้วย 3 องค์ประกอบหลัก:
- สิ่งที่เชื่อ
- ท่าทีในใจ
- การกระทำ
องค์ประกอบที่ 1: สิ่งที่เชื่อ - หลักการ "คนสุดท้ายจะเป็นคนต้น"
ความหมายของ "คนต้น" ในทางของพระเจ้า
คำว่า "คนต้น" ในภาษาอังกฤษคือ "First" ซึ่งหมายถึงคนที่มีอิทธิพลต่อคนอื่น มีเกียรติ และอยู่ในลำดับต้นๆ ของสังคม
หากเราอยากมีเกียรติในทางของพระเจ้า อยากมีอิทธิพลในทางดีต่อผู้อื่น และอยากประสบความสำเร็จในการติดตามพระเจ้า พระเยซูสอนว่าเราต้อง:
- ยอมเสียสละก่อน
- ต้องเป็นคนสุดท้ายก่อน
- ตายต่อตัวเองและเอาพระเจ้าเป็นศูนย์กลาง
การเสียสละในชีวิตคริสเตียน
เมื่อเราเลือกเดินกับพระเจ้า เราอาจต้องเผชิญกับการสูญเสีย:
- เพื่อนบางคนอาจไม่เข้าใจหรือหลีกหนี
- อาจถูกมองว่าเป็นคนหลงงมงาย
- รายได้อาจลดลงเนื่องจากการเสียสละเวลาเพื่อรับใช้
- ปัญหาในชีวิตอาจเพิ่มขึ้นชั่วคราว
แต่พระเยซูสัญญาว่า หากเราอยากเป็นคนต้นในภายหลัง พระเจ้าจะอวยพรให้มีเกียรติและอิทธิพล โดยต้องเริ่มจากการยอมเป็นคนสุดท้ายก่อน
บทเรียนจากเศรษฐีหนุ่ม
ในมาระโก 10:21-22 เราเห็นเศรษฐีหนุ่มที่เคร่งศาสนาและรักษากฎบัญญัติต่างๆ พระเยซูทรงรักเขาและตรัสว่า:
"ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง — ไปขายของทั้งหมดที่มี แจกแก่คนจน แล้วตามเรามา"
ชายผู้นั้นเศร้าใจเพราะมีทรัพย์สมบัติมาก เขาอยากไปสวรรค์แต่ไม่อยากเสียของ
การประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
พระเยซูไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องขายบ้านขายร้านอาหารถวายหมด แต่หมายถึงว่า หากสิ่งใดเป็นอุปสรรคในการเดินกับพระเจ้า ในการอธิษฐาน มาโบสถ์ หรือรับใช้ ให้เราสละสิ่งเหล่านั้นก่อน
การเสียสละนี้ไม่ใช่การสูญเสีย แต่เป็นการลงทุนในสิ่งที่มีค่าเป็นนิรันดร์
องค์ประกอบที่ 2: ท่าทีในใจ - ความถ่อมใจ
ปัญหาของความหยิ่ง
สาวกถกเถียงกันว่าใครจะเป็นใหญ่ พระเยซูรู้ว่าสิ่งนี้มาจากความหยิ่ง ความต้องการเกียรติและอำนาจ แต่พระเยซูเตือนว่า ความหยิ่งจะทำให้คุณอยู่อย่างคนต้นได้ไม่นาน
พลังของความถ่อมใจ
ส่วนคนที่ถ่อมใจ แม้จะอยู่ต่ำในตอนแรก แต่จะไม่อยู่ต่ำตลอดไป เมื่อเวลาเหมาะสม พระคุณของพระเจ้าจะเคาะประตูชีวิต และเมื่อเราเปิดใจรับ วันนั้นจะเปลี่ยนชีวิตของเราไปตลอดกาล
ลักษณะของความถ่อมใจในคริสเตียน
ความถ่อมใจในแบบคริสเตียนไม่ใช่การดูถูกตัวเองหรือการขาดความมั่นใจ แต่เป็น:
- การรู้จักตำแหน่งที่แท้จริงของเราต่อพระเจ้า
- การยอมรับว่าทุกสิ่งที่เรามีมาจากพระเจ้า
- การเปิดใจเรียนรู้จากผู้อื่น
- การไม่แข่งขันเพื่อการยกย่องตัวเอง
องค์ประกอบที่ 3: การกระทำ - เป็นผู้รับใช้คนทั้งปวง
ความหมายของการรับใช้
พระเยซูไม่ได้เน้นให้เริ่มจากการ "ลงมือช่วยคนอื่น" เป็นอันดับแรก แต่เน้นว่า ให้ใจของเราเป็นผู้รับใช้คนทั้งปวงก่อน
การรับใช้ที่แท้จริงมาจากใจที่อยากให้ผู้อื่นได้รับสิ่งดีๆ ไม่ใช่เพื่อให้ตัวเองดูดี
รูปแบบการรับใช้ในปัจจุบัน
การรับใช้ในยุคปัจจุบันมีหลายรูปแบบ:
- ในครอบครัว: การดูแลพ่อแม่ สามีภรรยา ลูกๆ ด้วยความรัก
- ในโบสถ์: การมาช่วยงานต่างๆ ทำอาหาร ดูแลสถานที่ แม้ไม่ใช่หน้าที่
- ในสังคม: การช่วยเหลือผู้อื่นตามโอกาสที่มี
- ในงาน: การทำงานด้วยความซื่อสัตย์และรับผิดชอบ
การรับใช้ที่ไม่มีใครเห็น
บางครั้งการรับใช้ที่มีค่าที่สุดคือสิ่งที่ไม่มีใครเห็น:
- การอธิษฐานเผื่อผู้อื่น
- การให้การสนับสนุนทางด้านจิตใจ
- การทำความดีแบบไม่ประกาศ
- การให้อภัยแม้จะถูกทำร้าย
ไม่มีใครเห็น แต่พระเจ้าเห็น และพระองค์จะไม่ลืมสิ่งที่เราเสียสละเพื่อผู้อื่น
ผลลัพธ์ของการเป็นใหญ่ในทางพระเจ้า
ในชีวิตส่วนตัว:
- ความสงบสุขภายใน ที่ไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายนอก
- ความมั่นใจที่แท้จริง เพราะรู้ว่าตัวตนของเรามีค่าในสายพระเนตรพระเจ้า
- ความสุขที่ยั่งยืน จากการรู้ว่าชีวิตมีจุดประสงค์
ในความสัมพันธ์:
- ครอบครัวที่แข็งแกร่ง เพราะเราเรียนรู้การรักและการให้อภัย
- มิตรภาพที่ลึกซึ้ง เพราะเราใส่ใจผู้อื่นมากกว่าตัวเอง
- การเป็นแบบอย่างที่ดี ในสังคมและชุมชน
ในหน้าที่การงาน:
- ความสำเร็จที่ยั่งยืน เพราะสร้างบนรากฐานของความซื่อสัตย์
- อิทธิพลในทางบวก ต่อเพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา
- ความเจริญก้าวหน้า ที่มาจากการทำงานด้วยใจรับใช้
ขั้นตอนปฏิบัติเพื่อเป็นใหญ่ในทางพระเจ้า
ขั้นตอนที่ 1: ปรับความเชื่อ
- ศึกษาพระคำ อย่างสม่ำเสมอเพื่อเข้าใจหลักการของพระเจ้า
- อธิษฐาน เพื่อขอให้พระเจ้าเปลี่ยนใจเรา
- ปรับมุมมอง จากการแข่งขันเป็นการรับใช้
ขั้นตอนที่ 2: พัฒนาท่าทีในใจ
- ฝึกความถ่อมใจ โดยการยอมรับข้อบกพร่องของตัวเอง
- เรียนรู้การให้อภัย แก่ผู้ที่ทำร้ายเรา
- พัฒนาความกตัญญู ต่อสิ่งที่พระเจ้าประทานให้
ขั้นตอนที่ 3: ลงมือรับใช้
- เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ในครอบครัวและโบสถ์
- หาโอกาสช่วยเหลือ ผู้อื่นตามความสามารถ
- ทำอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้รับการยอมรับ
อุปสรรคและการเอาชนะ
อุปสรรคที่พบบ่อย
- ความกลัวการสูญเสียสถานะหรือทรัพย์สิน
- ความคิดว่าจะถูกเอาเปรียบหากใจดีเกินไป
- การเปรียบเทียบกับผู้อื่นที่ดูเหมือนประสบความสำเร็จมากกว่า
- ความท้อใจเมื่อไม่เห็นผลลัพธ์ทันที
วิธีการเอาชนะ
- จำไว้ว่าพระเจ้าเห็นทุกสิ่งที่เราทำ
- มุ่งเน้นกระบวนการมากกว่าผลลัพธ์
- หาเพื่อนร่วมทางที่มีเป้าหมายเดียวกัน
- เฉลิมฉลองชัยชนะเล็กๆตามทาง
บทสรุป: การเริ่มต้นใหม่วันนี้
การเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้าไม่ใช่เป้าหมายที่เราต้องรอให้ถึงในอนาคต แต่เป็นการใช้ชีวิตที่เราสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใด ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน เจ้าของธุรกิจ หรือแม่บ้าน คุณสามารถเริ่มใช้หลักการทั้ง 3 ด้านนี้ในชีวิตประจำวัน:
- เปลี่ยนสิ่งที่เชื่อ - ยอมรับว่าการเสียสละเพื่อพระเจ้าคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
- พัฒนาท่าทีในใจ - ฝึกความถ่อมใจและความกตัญญู
- ลงมือรับใช้ - หาโอกาสช่วยเหลือผู้อื่นตามความสามารถ
จำไว้ว่า พระเจ้าไม่ลืมความรักและการเสียสละของคุณ แม้ว่าในตอนแรกคุณอาจรู้สึกเหมือนเป็นคนสุดท้าย แต่วันหนึ่งเมื่อเวลาเหมาะสม พระเจ้าจะยกคุณขึ้นให้เป็นคนต้นในแบบที่มีความหมายและยั่งยืนกว่าความสำเร็จใดๆ ในโลกนี้
เริ่มต้นวันนี้ด้วยการถามตัวเองว่า: "วันนี้ฉันจะรับใช้ใครได้บ้าง?" คำตอบของคำถามนี้จะเป็นก้าวแรกสู่การเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้าอย่างแท้จริง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. การเป็นใหญ่ในทางพระเจ้าหมายความว่าอย่างไร?
การเป็นใหญ่ในทางพระเจ้าหมายถึงการมีอิทธิพลในทางบวกต่อผู้อื่น มีเกียรติในสายพระเนตรพระเจ้า และประสบความสำเร็จในการติดตามพระองค์ ซึ่งแตกต่างจากความสำเร็จในแบบโลกที่เน้นอำนาจและทรัพย์สิน
2. ทำไมต้องเป็นคนสุดท้ายก่อนถึงจะเป็นคนต้น?
เพราะการเป็นคนสุดท้าย (การเสียสละ) จะสอนให้เราเรียนรู้ความถ่อมใจ ความเข้าใจผู้อื่น และการพึ่งพาพระเจ้า สิ่งเหล่านี้เป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้นำที่แท้จริงในทางของพระเจ้า
3. การรับใช้คนอื่นจะไม่ทำให้เราถูกเอาเปรียบหรือ?
การรับใช้ที่มาจากหลักการของพระเจ้าไม่ใช่การอ่อนแอหรือโง่เขลา แต่เป็นการใช้ปัญญาและความรักในการช่วยเหลือผู้อื่น พระเจ้าจะปกป้องและอวยพรผู้ที่รับใช้ด้วยใจจริง
4. หากเราไม่มีเงินมาก จะเสียสละอะไรเพื่อพระเจ้าได้?
การเสียสละไม่จำเป็นต้องเป็นเงินเสมอไป เราสามารถเสียสละเวลา ความสะดวกสบาย ความบันเทิง หรือแม้แต่ความคิดเห็นส่วนตัว เพื่อทำสิ่งที่พระเจ้าต้องการ
5. จะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังเป็นใหญ่ในทางพระเจ้า?
สัญญาณที่บ่งบอกว่าเราเป็นใหญ่ในทางพระเจ้า ได้แก่ ความสงบสุขภายใน การมีอิทธิพลในทางบวกต่อผู้อื่น ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น และการเห็นผลของการรับใช้ในชีวิตผู้อื่น
6. การเป็นผู้นำในงานกับการเป็นใหญ่ในทางพระเจ้าต่างกันอย่างไร?
การเป็นผู้นำในงานมักเน้นผลสำเร็จ อำนาจ และการควบคุม ส่วนการเป็นใหญ่ในทางพระเจ้าเน้นการรับใช้ ความถ่อมใจ และการสร้างคุณค่าให้ผู้อื่น ทั้งสองสามารถไปด้วยกันได้หากเราประยุกต์หลักการของพระเจ้าในการทำงาน
7. จะเริ่มต้นฝึกความถ่อมใจอย่างไร?
เริ่มจากการยอมรับว่าเรายังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ การขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งที่มี การฟังผู้อื่นอย่างจริงใจ และการไม่เปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ใจเราอ่อนนุ่มลงเรื่อยๆ
หากคุณกำลังมองหาบทเรียนชีวิตจากพระคัมภีร์ หรืออยากเข้าใจตัวเองและพระเจ้ามากขึ้น ติดตามบทความดีๆ แบบนี้ได้ที่ https://www.siamchristian.com
ถ้าหากสนใจอยากรู้เรื่องราวของการเป็นคริสเตียน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ เริ่มต้นการเป็นคริสเตียน หรือถ้าหากมีคำถามก็สามารถเมลมาสอบถามได้ที่ christiansiam@gmail.com