คำเทศนา - เป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า part 2

โดย ดร. จิโรจ บงกชมาศ

สรุปคำเทศนา - เป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า part 2

บทนำ: ทำไมการเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้าจึงสำคัญ

ในโลกของการทำงาน เราทุกคนต่างมีความปรารถนาที่จะก้าวหน้า เลื่อนตำแหน่ง และประสบความสำเร็จ เพราะเราเข้าใจดีว่าตำแหน่งที่สูงขึ้นจะนำมาซึ่งความรับผิดชอบมากขึ้น รายได้ที่ดีขึ้น และสวัสดิการที่หลากหลาย แต่เมื่อเราเป็นคริสเตียนแล้ว เหตุใดเราจึงมักไม่มีความปรารถนาเดียวกันนี้ในเรื่องของการเติบโตทางวิญญาณ? การเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่การมีตำแหน่งหน้าที่ในโบสถ์ หรือการเป็นผู้นำในกิจกรรมศาสนา แต่เป็นการเจริญเติบโตในความเชื่อ ความรัก และการดำเนินชีวิตที่สะท้อนพระลักษณะของพระเจ้า พระเจ้าทรงมีแผนการที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตของเรา และการเป็นใหญ่ในทางของพระองค์คือหนึ่งในสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนาให้เราทำ

ความแตกต่างระหว่างการเป็นใหญ่ในโลกกับการเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า

การเป็นใหญ่ในโลก

ในระบบของโลก การเป็นใหญ่มักจะวัดจาก:

• ตำแหน่งหน้าที่และอำนาจ
• รายได้และทรัพย์สิน
• ชื่อเสียงและการยอมรับจากสังคม
• การมีคนใต้บังคับบัญชา
• สถานะทางสังคม

การเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า

แต่ในระบบของพระเจ้า การเป็นใหญ่กลับมีความหมายที่แตกต่าง:

• การรับใช้ผู้อื่นด้วยใจรัก
• ความถ่อมใจและการยอมให้พระเจ้านำทาง
• การเสียสละเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น
• ความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าในทุกสถานการณ์
• การเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิต

บทเรียนจากพระคัมภีร์: มาระโก บทที่ 9 ข้อ 33-37

พระคัมภีร์ในมาระโก บทที่ 9 ข้อ 33-37 บันทึกเหตุการณ์ที่สาวกของพระเยซูถกเถียงกันเรื่องการเป็นใหญ่ เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างมุมมองของมนุษย์กับมุมมองของพระเจ้า

สาเหตุของการถกเถียง

เหล่าสาวกคิดว่าพระเยซูจะทรงเป็นกษัตริย์ทางโลก และพวกเขาต้องการทราบว่าใครจะได้ตำแหน่งสำคัญในอาณาจักรนั้น แต่พระเยซูทรงมาเพื่อก่อตั้งอาณาจักรฝ่ายวิญญาณ ไม่ใช่อาณาจักรทางโลก

คำสอนของพระเยซู

พระเยซูตรัสว่า "ถ้าใครต้องการจะเป็นคนแรก ก็ให้คนนั้นเป็นคนสุดท้าย และเป็นคนปรนนิบัติคนทั้งหลาย" (มาระโก 9:35)

หลักการที่ 1: การเป็นคนสุดท้ายเพื่อเป็นคนต้น

ความหมายของการเป็นคนสุดท้าย

การเป็นคนสุดท้ายไม่ได้หมายความว่าเราต้องมีชีวิตที่ไม่สำเร็จ แต่หมายถึง:

• ความยินดีในการทำงานหนัก โดยไม่คาดหวังการตอบแทนทันที
• ความอดทนต่อความเข้าใจผิด จากผู้อื่น
• การยอมอยู่ในสภาพที่ต่ำต้อย เพื่อให้พระเจ้าสร้างลักษณะนิสัย
• ความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
• การเสียสละเวลาและทรัพยากร เพื่อถวายแด่พระเจ้า

ตัวอย่างการนำไปปฏิบัติ

• ในที่ทำงาน: ยินดีรับผิดชอบงานที่ผู้อื่นไม่ต้องการทำ
• ในครอบครัว: เป็นคนที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน
• ในโบสถ์: เสนอตัวรับใช้ในงานที่ไม่โดดเด่น แต่จำเป็น
• ในชุมชน: มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส

หลักการที่ 2: การดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจ

ปัญหาของความหยิ่งในหมู่สาวก

แม้ว่าเหล่าสาวกจะเลือกที่จะติดตามพระเยซู แต่พวกเขายังคงมีลักษณะนิสัยเก่าที่ไม่เหมือนพระองค์:

• ความใจร้อน
• ความขาดอดทน
• ความหยิ่ง
• การแข่งขันกันเพื่อตำแหน่ง

วิธีการเสริมสร้างความถ่อมใจ

การสำนึกในบทบาทของตนเอง

• เข้าใจว่าทุกสิ่งที่เรามีมาจากพระเจ้า
• ยอมรับว่าเราต้องการพระคุณของพระเจ้าในทุกวัน
• ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น

การเรียนรู้จากความยากลำบาก

• ใช้ช่วงเวลาแห่งความทุกข์เป็นโอกาสในการเติบโต
• ไม่ท้อแท้เมื่อพบกับอุปสรรค
• มองหาบทเรียนในทุกสถานการณ์

การผ่านช่วงเวลาแห่งการทดสอบ

ลักษณะของช่วงเวลาทดสอบ

ทุกคนที่ต้องการเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้าจะต้องผ่านช่วงเวลาแห่งการทดสอบ:

• ความยากลำบากทางการเงิน
• การถูกมองข้ามหรือไม่ได้รับการยอมรับ
• การต้องอยู่ในสถานที่หรือสภาพที่ไม่เหมาะสม
• การถูกหลอกใช้หรือเอาเปรียบ
• ความเหงาและความกังวล

จุดประสงค์ของการทดสอบ

• การสร้างลักษณะนิสัยที่เหมือนพระเจ้า
• การทดสอบความเชื่อที่แท้จริง
• การเตรียมความพร้อมสำหรับความรับผิดชอบที่ใหญ่กว่า
• การสอนให้พึ่งพาพระเจ้ามากกว่าตนเอง

แนวทางปฏิบัติเพื่อการเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า

1. การวางพระเจ้าไว้เป็นอันดับแรก
   • การอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขอคำแนะนำจากพระเจ้า
   • การศึกษาพระคัมภีร์ เพื่อเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้า
   • การเชื่อฟังต่อการทรงนำของพระวิญญาณ ในการตัดสินใจ
2. การพัฒนาทักษะการรับใช้
   • การฟังอย่างตั้งใจต่อความต้องการของผู้อื่น
   • การให้การช่วยเหลือโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน
   • การเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิต
3. การเสริมสร้างความเชื่อและความไว้วางใจ
   • การอดทนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
   • การไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค
   • การมีความหวังในพระสัญญาของพระเจ้า

ประโยชน์ของการเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า

ประโยชน์ทางด้านวิญญาณ

1. ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้า
2. ความสุขและความสงบใจที่แท้จริง
3. การมีจุดประสงค์ในชีวิตที่ชัดเจน
4. ความเข้มแข็งในการเผชิญปัญหา

ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

1. การเป็นที่เคารพและไว้วางใจของผู้อื่น
2. ความสามารถในการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ
3. การมีอิทธิพลเชิงบวกต่อสังคม
4. การได้รับพระพรจากพระเจ้าในหลายด้าน

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

1. การเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น
   • ความอิจฉาริษยา
   • ความท้อแท้
   • การสูญเสียสมาธิจากเป้าหมายที่แท้จริง
2. การทิ้งพระเจ้าเพื่อแสวงหาตำแหน่ง
   • การใช้วิธีการที่ไม่สุจริต
   • การละเลยหน้าที่ทางวิญญาณ
   • การเอาประโยชน์จากผู้อื่น
3. ความใจร้อนและไม่อดทน
   • การต้องการผลลัพธ์ทันที
   • การไม่ยอมผ่านกระบวนการเรียนรู้
   • การยอมแพ้ง่าย

กรณีศึกษา: การเปลี่ยนแปลงจากคนสุดท้ายเป็นคนต้น

ตัวอย่างจากพระคัมภีร์
โยเซฟ: จากการเป็นทาสและนักโทษ กลายเป็นเสนาบดีของฟาโรห์
ดาวิด: จากเด็กเลี้ยงแกะ กลายเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล
เอสเธอร์: จากสาวน้อยกำพร้า กลายเป็นพระราชินี

หลักการที่เหมือนกัน

• ความซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย
• การไว้วางใจในพระเจ้าในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
• การเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง
• การมีใจรับใช้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. การเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้ามีความหมายอย่างไร?
การเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้า หมายถึง การเจริญเติบโตในความเชื่อ ความรัก และการดำเนินชีวิตที่สะท้อนพระลักษณะของพระเจ้า ไม่ใช่การมีตำแหน่งหน้าที่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการมีอิทธิพลเชิงบวกต่อผู้อื่นและสังคม

2. ทำไมต้องเป็นคนสุดท้ายก่อนจึงจะเป็นคนต้น?
การเป็นคนสุดท้ายช่วยสร้างลักษณะนิสัยที่จำเป็น เช่น ความถ่อมใจ ความอดทน และการพึ่งพาพระเจ้า คุณสมบัติเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการเป็นผู้นำที่ดีในทางของพระเจ้า

3. ช่วงเวลาแห่งการทดสอบจะนานแค่ไหน?
ระยะเวลาแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับแผนการของพระเจ้าและการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล สิ่งสำคัญคือการอดทนและไว้วางใจในเวลาของพระเจ้า

4. จะรู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้ากำลังยกชูเราขึ้น?
สัญญาณอาจรวมถึงการเปิดโอกาสใหม่ๆ การได้รับการยอมรับจากผู้อื่น การมีอิทธิพลที่เพิ่มขึ้น และความรู้สึกของความสงบใจในการดำเนินชีวิต

5. ถ้าไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงจะทำอย่างไร?
ให้ตรวจสอบใจของตัวเองว่ายังคงมีความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าหรือไม่ ศึกษาพระคัมภีร์เพื่อขอคำแนะนำและขอคำปรึกษาจากผู้นำฝ่ายวิญญาณที่มีประสบการณ์

6. การรับใช้คนทั้งปวงหมายความว่าอย่างไร?
หมายถึงการมีใจที่พร้อมช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่เลือกหน้า การใส่ใจต่อความต้องการของผู้อื่น และการเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

7. จะสร้างสมดุลระหว่างความปรารถนาส่วนตัวกับการรับใช้ได้อย่างไร?
การสร้างสมดุลต้องอาศัยการอธิษฐานและการขอคำแนะนำจากพระเจ้า พระเจ้าทรงสนใจความปรารถนาของเรา แต่พระองค์ต้องการให้เราวางพระองค์ไว้เป็นอันดับแรก

คำแนะนำสำหรับการนำไปปฏิบัติ

การเริ่มต้นวันนี้

• ประเมินใจของตัวเอง: ตรวจสอบว่าคุณมีความปรารถนาที่จะเติบโตในทางของพระเจ้าหรือไม่
• หาโอกาสในการรับใช้: มองหาวิธีการที่คุณสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ในชีวิตประจำวัน
• ตั้งเป้าหมายทางวิญญาณ: กำหนดเป้าหมายเฉพาะในการพัฒนาชีวิตฝ่ายวิญญาณ

การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

• การศึกษาพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอ
• การเข้าร่วมกิจกรรมในโบสถ์
• การหาพี่เลี้ยงทางวิญญาณ
• การบันทึกบันทึกประจำวันเพื่อสะท้อนการเรียนรู้

บทสรุป: เส้นทางสู่ความสำเร็จแท้จริง

การเป็นใหญ่ในทางของพระเจ้าไม่ใช่เป้าหมายที่บรรลุได้ในชั่วข้ามคืน แต่เป็นกระบวนการเรียนรู้และเติบโตที่ต้องใช้เวลา ความอดทน และความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า

หลักการสำคัญที่เราได้เรียนรู้คือ:

• การเป็นคนสุดท้ายเพื่อเป็นคนต้น
• การดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจ
• การรับใช้ผู้อื่นด้วยใจรัก
• การไว้วางใจในเวลาของพระเจ้า

ความสำเร็จแท้จริงไม่ได้วัดจากตำแหน่งหน้าที่หรือทรัพย์สิน แต่วัดจากการที่เราสามารถสะท้อนพระลักษณะของพระเจ้าและมีอิทธิพลเชิงบวกต่อผู้อื่น

เรียกร้องการกระทำ

วันนี้คือวันที่เหมาะสมที่จะเริ่มต้น อย่ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ เริ่มต้นด้วยการวางพระเจ้าไว้เป็นอันดับแรกในชีวิต หาโอกาสในการรับใช้ผู้อื่น และเดินไปบนเส้นทางแห่งความถ่อมใจ

พระเจ้าทรงมีแผนการที่ยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตของคุณ และการเป็นใหญ่ในทางของพระองค์คือส่วนหนึ่งของแผนการนั้น ให้พระองค์นำทางชีวิตของคุณ และจงมั่นใจว่าในเวลาที่เหมาะสม พระคุณของพระเจ้าจะยกชูคุณขึ้นจากคนสุดท้ายให้เป็นคนต้น

หากคุณกำลังมองหาบทเรียนชีวิตจากพระคัมภีร์ หรืออยากเข้าใจตัวเองและพระเจ้ามากขึ้น ติดตามบทความดีๆ แบบนี้ได้ที่ https://www.siamchristian.com

ถ้าหากสนใจอยากรู้เรื่องราวของการเป็นคริสเตียน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ เริ่มต้นการเป็นคริสเตียน หรือถ้าหากมีคำถามก็สามารถเมลมาสอบถามได้ที่ christiansiam@gmail.com