พระเจ้ามีจริงหรือ โลกที่เราอยู่เกิดขึ้นเองโดยบังเอิญหรือมีผู้สร้าง
ความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด
1 โครินธ์ 13:13
Facebook Page   
Email: christiansiam@gmail.com

คำเทศนา - ความรักแบบพระเจ้า ตอนที่ 1

คำเทศนาประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2568

โดย ดร. จิโรจ บงกชมาศ



มาระโก 1230-31

สรุปคำเทศนา - ความรักแบบพระเจ้า ตอนที่ 1

บทนำ: คุณเป็นคนแบบไหน? ปลาฉลามหรือปลาโลมา?

หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเมื่อได้ไปเที่ยวทะเล แต่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงความน่ากลัวของ ปลาฉลาม ผู้ล่าแห่งท้องทะเลลึก เราได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับปลาฉลามที่เข้าจู่โจมมนุษย์ โดยเฉพาะเมื่อพวกมันได้กลิ่นคาวเลือดที่กระตุ้นสัญชาตญาณการล่าและกินอาหาร ปลาฉลามมักจะโจมตีเป็นฝูงและไม่ยอมปล่อยเหยื่อที่อ่อนแอ นั่นคือลักษณะของปลาที่ดุดันและแข็งกร้าว


แต่ในทางกลับกัน เราก็มีเรื่องราวที่น่าประทับใจของ ปลาโลมา สัตว์โลกผู้น่ารักและเป็นมิตร ที่มักจะช่วยเหลือมนุษย์อยู่เสมอ มีเรื่องเล่ามากมายทั้งในนิวซีแลนด์และฟลอริดาที่ปลาโลมาช่วยชีวิตนักเล่นเซิร์ฟจากฝูงปลาฉลาม หรือช่วยเด็กที่กำลังจมน้ำให้กลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย ภาพลักษณ์ของปลาโลมาที่ยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลาจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความมีน้ำใจและการช่วยเหลือผู้อื่น


ในโลกนี้ มนุษย์เราก็มีทั้งนิสัยแบบปลาฉลามและปลาโลมา เรามีความแข็งกร้าว ไม่ยอมใคร โจมตีกลับเมื่อถูกทำร้าย และฉกฉวยโอกาสจากคนที่อ่อนแอกว่า แต่ในฐานะคริสเตียน พระเจ้า ต้องการให้เรามีลักษณะแบบปลาโลมามากขึ้น คือเป็นมิตร มีน้ำใจ และมีความสุภาพอ่อนน้อม ชีวิตของเราควรจะเปลี่ยนแปลงไปสู่การมี ความรักแบบพระเจ้า ซึ่งเป็นแก่นแท้ของค่านิยมทวนกระแสที่แตกต่างจากโลกนี้


ความรักแบบพระเจ้าคืออะไร? อะไรคือธรรมบัญญัติที่สำคัญที่สุด?

เมื่อพูดถึงความรัก คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงความรู้สึกโรแมนติก เช่น หัวใจสีชมพู ดอกกุหลาบ หรือของขวัญ แต่สำหรับคริสเตียนแล้ว ความรักแบบพระเจ้า มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก พระคัมภีร์ในพระธรรมมาระโก บทที่ 12 ข้อ 30-31 ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า:


"และพวกท่านจงรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของท่านและด้วยความคิดและด้วยสิ้นสุดกำลังของท่าน และพระบัญญัติที่ 2 นั้นคือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ธรรมบัญญัติอื่นที่ใหญ่กว่าธรรมบัญญัติทั้งสองไม่มี"


คำสั่งนี้แสดงให้เห็นว่า ความรัก เป็นหลักการที่สำคัญที่สุดในชีวิตคริสเตียน เพราะพระเจ้าเองคือ ความรัก การที่พระองค์สั่งให้เรารักจึงเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงพระลักษณะของพระองค์ พระเจ้าไม่ได้สั่งให้เรารักตัวเอง เพราะเรารักตัวเองอยู่แล้ว แต่พระองค์ต้องการให้เราขยายความรักนั้นออกไปสู่พระองค์และผู้อื่น


หลายคนอาจสงสัยว่า "ความรักมันสั่งกันได้ด้วยเหรอ?" ในมุมมองของมนุษย์ ความรู้สึกบังคับกันไม่ได้ แต่ในมุมมองของพระเจ้า ความรักมีมิติที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก


ทำไมพระเจ้าจึงสั่งให้เรารัก?

การที่พระเจ้าสั่งให้เรารักนั้นมีความหมายที่ลึกซึ้ง และไม่ใช่แค่คำสั่งเปล่าๆ แต่มีเหตุผลที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง:


  • ความรักคือสิ่งสำคัญที่สุด: พระเจ้าต้องการให้เรารู้ว่าการรักพระองค์และการรักเพื่อนบ้านเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดในชีวิตคริสเตียน เหมือนกับที่พระคัมภีร์สั่งให้ลูกเคารพพ่อแม่ แม้ว่าบางครั้งพ่อแม่จะไม่ได้ทำตัวน่าเคารพก็ตาม เพราะนี่คือหลักการที่พระเจ้ากำหนดไว้
  • ความรักคือการตัดสินใจ ไม่ใช่แค่ความรู้สึก: ความรู้สึกสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ความรักที่แท้จริงคือการ ตัดสินใจ ที่จะรัก การที่พระเจ้าสั่งให้รักจึงเป็นการท้าทายให้เราตัดสินใจที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ แม้ในสถานการณ์ที่เราอาจจะไม่ได้รู้สึกดีกับคนๆ นั้น
  • ความรักคือการแสดงออกถึงการเชื่อฟัง: พระเจ้าต้องการให้เรารู้ว่าคนถูกรักต้องการอะไรจากเรา พระองค์ไม่ได้ต้องการแค่ความรู้สึกคิดถึง แต่ต้องการให้เราแสดงออกถึงความรักนั้นด้วยการ เชื่อฟัง และทำตามคำสั่งของพระองค์ การรักษาพระบัญญัติของพระเจ้าจึงเป็นการแสดงออกถึงความรักที่เรามีต่อพระองค์อย่างแท้จริง

ความรัก 3 ระดับ: รักด้วยสุดจิต สุดความคิด และสุดกำลัง

พระคัมภีร์ในมาระโก 12:30 อธิบายถึง ความรักแบบพระเจ้า ได้อย่างชัดเจน โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับที่สำคัญ:

1. ความรักระดับจิตใจ (สุดจิตสุดใจ)

ความรักระดับนี้คือความรักที่มาจาก ความรู้สึก ภายใน เป็นความผูกพัน ความห่วงใย และความปรารถนาดีที่เรามีต่อใครสักคน ความรู้สึกนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท ครอบครัว หรือพี่น้องในคริสตจักร แต่ปัญหาคือความรักที่อิงกับความรู้สึกเพียงอย่างเดียวอาจไม่ยั่งยืน พระเยซูตรัสในมัทธิว 5:44 ว่า "จงรักศัตรูของท่าน จงอธิษฐานเผื่อผู้ที่ข่มเหงท่าน" ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเราจะรักศัตรูด้วยความรู้สึกดีๆ


2. ความรักระดับความคิด (สุดความคิด)

ความรักระดับนี้คือการใช้ ความคิด และสติปัญญาในการตัดสินใจที่จะรัก เป็นการเลือกว่าจะทำอย่างไรให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น โดยไม่ปล่อยให้ความรู้สึกที่ไม่ดีเข้ามาควบคุมชีวิตของเรา การรักด้วยความคิดคือการใช้สมองเพื่อใคร่ครวญและวางแผนที่จะทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่น แม้เราจะไม่ได้รู้สึกดีกับเขาในตอนนั้นก็ตาม มันคือการตัดสินใจที่จะให้อภัย ตัดสินใจที่จะกลับไปคืนดี หรือตัดสินใจที่จะอธิษฐานเผื่อเขา เพราะเรายึดหลักคำสอนของพระเจ้าเป็นสำคัญ


ดังที่พระเยซูตรัสในยอห์น 14:15 ว่า "ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา จงรักษาบัญญัติของเรา" การเชื่อฟังบัญญัติของพระเจ้าเริ่มต้นที่การตัดสินใจทางความคิด ไม่ใช่แค่ความรู้สึก รักด้วยความคิดจึงเป็นรักที่มั่นคงและยั่งยืนกว่า เพราะมันสามารถเอาชนะความรู้สึกที่ไม่ดีได้ในที่สุด


3. ความรักระดับกำลัง (สุดกำลัง)

ความรักระดับนี้คือการแสดงออกด้วย การกระทำ ที่ใช้ทุกสิ่งที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง เวลา กำลังกาย หรือสติปัญญา เพื่อเป็นพระพรแก่ผู้อื่น รักสุดกำลังคือการทุ่มเทสุดตัวเพื่อรับใช้พระเจ้าและช่วยเหลือเพื่อนบ้านของเรา ตัวอย่างที่น่าประทับใจคือเรื่องราวของเด็กหญิงชาวอิสราเอลใน 2 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 5 ที่ถูกจับมาเป็นเชลย แต่เมื่อเห็นนายทหารนามันเป็นโรคเรื้อน เธอก็ไม่ได้รู้สึกสะใจ แต่กลับแนะนำให้นามันไปหาผู้เผยพระวจนะเพื่อรักษา นั่นคือการแสดงออกถึงความรักด้วยการกระทำอย่างแท้จริง แม้จะไม่ได้รักด้วยใจในฐานะศัตรูก็ตาม


ความรักแบบพระเจ้า จึงไม่ใช่แค่การร้องเพลงสรรเสริญในโบสถ์หรือพูดว่า "ข้าพระองค์รักพระองค์" เท่านั้น แต่ต้องแสดงออกผ่านการกระทำในชีวิตประจำวันด้วย


สรุปและข้อคิด

ชีวิตคริสเตียนต้องเปลี่ยนจากนิสัยแบบ ปลาฉลาม ที่โจมตีและเอาเปรียบ มาเป็นนิสัยแบบ ปลาโลมา ที่มีน้ำใจและช่วยเหลือผู้อื่น ความรักแบบพระเจ้า คือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนี้ มันคือความรักที่ครอบคลุมทั้ง 3 ระดับ:

  • รักด้วยใจ: รู้สึกดีและผูกพันกับผู้อื่น
  • รักด้วยความคิด: ตัดสินใจที่จะทำสิ่งดีๆ แม้จะไม่ได้รู้สึกดีก็ตาม
  • รักด้วยกำลัง: แสดงออกด้วยการกระทำและทุ่มเททุกสิ่งที่เรามี

เมื่อเราฝึกฝนที่จะรักในทั้งสามมิตินี้ ชีวิตของเราก็จะเติบโตและเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าได้มากขึ้น


หากคุณอยากสัมผัสกับความรักที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของพระเจ้า และเรียนรู้ที่จะรักแบบพระองค์ที่สมบูรณ์แบบ ขอเชิญคุณมารู้จักกับพระเยซูคริสต์และเข้าร่วมกลุ่มคริสเตียนเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงชีวิตไปด้วยกัน ความรักที่แท้จริงเริ่มต้นที่การรู้จักพระองค์


FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความรักแบบพระเจ้า

  • Q: ทำไมพระเจ้าถึงสั่งให้เรารักในเมื่อความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก?
    • A: พระเจ้าสั่งให้รักเพราะต้องการให้เราเข้าใจว่าความรักที่แท้จริงไม่ใช่แค่ความรู้สึกชั่วคราว แต่เป็นการตัดสินใจและเป็นการกระทำที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
  • Q: การรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง หมายความว่าอะไร?
    • A: หมายถึงการปฏิบัติต่อผู้อื่นในแบบที่เราอยากให้เขาปฏิบัติต่อเรา คือการมีน้ำใจ โอบอ้อมอารี และช่วยเหลือผู้อื่น
  • Q: เราจะรักศัตรูได้อย่างไรในเมื่อเรารู้สึกเกลียดเขา?
    • A: การรักศัตรูเริ่มต้นที่ระดับความคิดและการกระทำ โดยการตัดสินใจที่จะให้อภัยและอธิษฐานเผื่อเขา แม้ความรู้สึกจะยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงก็ตาม
  • Q: ความรัก 3 ระดับที่กล่าวถึงมีความสำคัญอย่างไร?
    • A: ความรัก 3 ระดับ (ใจ, ความคิด, กำลัง) เป็นแนวทางให้เราเข้าใจว่าการแสดงความรักที่สมบูรณ์แบบต้องครอบคลุมทั้งสามมิติ ไม่ใช่แค่ด้านใดด้านหนึ่ง
  • Q: หากเรารักพระเจ้าอย่างแท้จริง เราควรแสดงออกอย่างไร?
    • A: เราควรแสดงออกด้วยการเชื่อฟังพระคำของพระองค์ การนมัสการด้วยใจจริง และการใช้กำลังความสามารถที่เรามีเพื่อรับใช้และถวายเกียรติแด่พระองค์

  • หากคุณกำลังมองหาบทเรียนชีวิตจากพระคัมภีร์ หรืออยากเข้าใจตัวเองและพระเจ้ามากขึ้น ติดตามบทความดีๆ แบบนี้ได้ที่ https://www.siamchristian.com

     

    ถ้าหากสนใจอยากรู้เรื่องราวของการเป็นคริสเตียน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ เริ่มต้นการเป็นคริสเตียน หรือถ้าหากมีคำถามก็สามารถเมลมาสอบถามได้ที่ christiansiam@gmail.com

     



     

ค้นหาความจริง

เริ่มต้นการเป็นคริสเตียน

เกี่ยวกับเรา

เว็บสยามคริสเตียน - เว็บสำหรับคนอยากรู้จักพระเจ้า
รวมคำเทศนา คำหนุนใจ และพระวจนะจากพระเจ้า โดย ดร.จิโรจ บงกชมาศ แห่งคริสตจักร Hope International Church Seattle เพื่อเสริมสร้างความเชื่อคริสเตียน รู้จักพระเยซู และเรียนรู้พระคัมภีร์ ติดต่อ: christiansiam@gmail.com